รวมไฮไลท์จุดเช็คอินตุรกี ไปทั้งทีเที่ยวครึ่งประเทศ
Spice Bazaar / Spice Market
เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า “ตลาดอียิปต์ หรือตลาดเครื่องเทศ” มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากตลาดแกรนด์บาร์ซาร์ ลักษณะผังตลาดเป็นรูปตัว L เดินสบายเพราะเป็นตลาดในร่ม
สินค้าที่ขายในตลาดแห่งนี้เน้นขายพวกเครื่องเทศ ผลไม้อบแห้ง เช่น ลูกมะเดื่อ หรือลูกฟิกซ์สอดไส้พิตาชิโอ้ อินทผาลัม ชากาแฟ ถั่วพีแคน ถั่วพิตาชิโอสีชมพู และถั่วอื่นๆ อีกหลากหลายชนิด รวมไปถึงขนมหวานชื่อดังของตุรกี “Turkist delight”
พิกัด : https://goo.gl/maps/59ZentV69E5Rg9e47
เวลาเปิด – ปิด : จันทร์-เสาร์ 08.30 – 18.30 น.
วิธีชำระเงิน : เงินสด
ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส Bosporus Strait
เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ช่องแคบอิสตันบูล” (İstanbul Boğazı) เป็นช่องแคบที่ทำหน้าที่แบ่งดินแดนของตุรกีออกเป็น 2 ส่วนคือ ฝั่งเอเชีย (Anatolia) และฝั่งยุโรป (Rumelia) เชื่อมระหว่าง(Sea of Marmara) และทะเลดำ(The Black Sea) ช่องแคบนี้มีไว้สำหรับการเดินเรือข้ามฟากของคนที่บ้านอยู่ริมน้ำ ตอนที่ล่องเรือก็จะผ่านสถานที่สำคัญต่างๆ อย่างเช่น พระราชวังโดลมาบาชเช่ สะพาน Helic Metro Bridge หนึ่งใน Mega Project สะพานแขวนที่ใหญ่ที่สุดในโลกของตุรกี สะพาน Galata Bridge สะพานที่เป็นที่นิยมสำหรับนักตกปลา เป็นต้น
พิกัด : https://goo.gl/maps/59ZentV69E5Rg9e47
เวลาเปิด – ปิด : MON-SAT 08.30 – 18.30 น.
ค่าทัวร์ขึ้นเรือ : 12 Turkish Liras / เด็ก 6 Turkish Liras
Grand Mosque of Bursa
สถานที่เก่าแก่อย่างมัสยิดแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นเมื่อเกือบ 250 ปีก่อน ภายในมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง ในส่วนของการตกแต่งที่นี่ใช้กระเบื้องลายเรขาคณิต อย่างเช่น รูปวงกลม และรูปดาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลาม นอกจากนี้ยังมีลายเส้นประดิษฐ์ตัวอักษรอิสลามปรากฎอยู่บนกำแพงอีกด้วย
ตอนเดินชมที่นี่จะเห็นผู้คนอยู่ตามจุดต่างๆ บ้างก็นั่งพักผ่อน บ้างก็นั่งอ่านคัมภีร์อัลกุรอาน รู้สึกได้ถึงพลังศรัทธาอันเปี่ยมล้นของผู้คนที่นี่
พิกัด : https://goo.gl/maps/LFoP9BAwPWmaHGEk8
ที่พักที่ใกล้ Grand Mosque of Bursa
Green Mosque
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาอีกแห่งที่มีความสวยงามอีกเช่นกัน แม้จะไม่ได้มีขนาดที่ใหญ่โต แต่ภายในยังคงใส่ในใจเรื่องการออกแบบเช่นเดิม ที่มีของชื่อ Green Mosque (Yeşil Cami) มาจากสีของกระเบื้องที่ตกแต่งภายในตัวอาคารเป็นสีฟ้าเขียวนั่นเอง สถานที่แห่งนี้ยังเป็นที่บรรจุศพของ สุลต่านเมห์เมดที่ 1 และครอบครัว จัดได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมทีทรงคุณค่าของตุรกีเช่นกัน
พิกัด : https://goo.gl/maps/b2vbea14Rvm1py917
City of Ephesus
เมืองโบราณเอเฟซุส หรือ นครเอเฟซุส อดีตเมืองหลวงของอาณาจักรโรมัน เคยเป็นเมืองที่รุ่งเรืองและมั่งคั่งที่สุดในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเมืองที่ จักรพรรดิออกุสตุส ซีซาร์ แห่งโรมัน สถาปนาให้เป็นเมืองหลวงของเขตการปกครองในเอเซีย ยังคงเห็นสิ่งก่อสร้างหลงเหลืออยู่ บางจุดก็เป็นเศษซากปรักหักพังไปแล้ว จุดไฮไลท์ที่นี่ได้แก่ โรงละคร Great Theatre สร้างด้วยวิธีการสกัดไหล่เขาให้เป็นที่นั่งที่จุผู้ชมได้ถึง 25,000 คน นอกจากนี้ยังมีจุดไฮไลท์อีกแห่งคือ หอสมุดเซลซุส (Library of Celsus) นับเป็นเมืองโบราณที่ได้รับการดูแลรักษาไว้อย่างดีที่สุดแห่งหนึ่ง
พิกัด : https://goo.gl/maps/bwBvzmEpPgVMXxYj7
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 8.00 AM – 6.30 PM
ค่าเข้าชม : 72 Turkish Liras
Library of Celsus
ห้องสมุดที่ถูกสร้างเพิ่งเป็นเกียรติแก่ เซลซุส บรรพบุรษผู้ก่อตั้ง Ephesus มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก รองจาก Library of Alexandria (อียิปต์) และ Library of Pergamum (ตุรกี) มีตำราม้วนกระดาษมากกว่า 12,000 ม้วน ห้องสมุดแห่งนี้มีทางเข้า 3 ทาง โดยบริเวณประตูทางเข้ามีรูปแกะสลักเทพี 4 องค์ประดับอยู่ ได้แก่ Sophia เทพีแห่งปัญญา Arete เทพีแห่งคุณธรรม Ennoia เทพีแห่งความคิด-ความเฉลียวฉลาด และ Episteme เทพีแห่งความรู้ และที่ฝั่งตรงข้ามทางเข้ายังมี Athena เทพีแห่งปัญญา สงคราม ปัจจุบันรูปปั้นเหล่านี้เป็นรูปจำลอง ส่วนของจริงอยู่ที่ Ephesos Museum Kunsthistorisches กรุงเวียนนา ออสเตรีย
พิกัด :
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 8.00 AM – 6.30 PM
ค่าเข้าชม : 72 Turkish Liras (ราคาเดียวกับ City of Ephesus)
บ้านพระแม่มารี (House of Virgin Mary)
บ้านอิฐชั้นเดียวที่ด้านในมีเพียง 2 ห้อง เชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ เพราะมีเหตุการณ์ที่แม่ชีตาบอดชาวเยอรมันที่ชื่อ แอนนา แคเธอรีน เอมเมอริช (Anna Catherine Emmerich) ผู้ซึ่งฝันเห็นบ้านหลังนี้ แล้วได้เขียนบรรยายไว้ในหนังสือไว้อย่างละเอียด เสมือนเห็นด้วยตาตนเอง หลังจากแม่ชีท่านนี้เสียชีวิตลง ก็ได้มีคนพยายามค้นหาบ้านหลังนี้จนพบ
บ้านหลังนี้ว่ากันว่า พระสันตปาปา โป๊ปเบเนดิกส์ที่ 16 เคยเสด็จมา ภายในบ้านห้ามถ่ายภาพ แต่เราสามารถเข้าไปจุดเทียนอธิษฐานได้
ด้านนอกของตัวบ้านมีก๊อกน้ำ 3 ก๊อก เชื่อกันว่าเป็นก๊อกน้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์กับความเชื่อในเรื่อง ความร่ำรวย สุขภาพ และความรัก ถัดจากก๊อกน้ำเป็นกำแพงอธิษฐาน (Wishing Wall) ที่เราสามารถเขียนคำอธิษฐานของเราบนผ้าฝ้ายแล้วเอาไปผูกไว้ที่ตรงกำแพงได้
พิกัด : https://goo.gl/maps/PVvUskkUDLjhA1dZ7
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
November-February 08.00 AM – 5.00 PM
March-October 08.00 AM – 6.00 PM
ค่าเข้าชม : 45 Turkish Liras
การชำระเงิน : เงินสดเท่านั้น
]
Pamukkale
ปามุคคาเล หรือ ปราสาทปุยฝ้าย ตั้งอยู่ที่เมืองเดนิซลี เป็นแหล่งน้ำพุร้อนทางธรรมชาติ ว่ากันว่าน้ำพุร้อนที่นี่มีอายุมากกว่า 14,000 ปี ด้วยความที่มีหลายๆ บ่อ แล้วไหลมารวมกัน ทำให้เกิดการตกตะกอนของหินปูนจนกลายเป็นแอ่งหินปูนสีขาว มีธารน้ำสีฟ้าไหลผ่าน ที่นี่มีเก็บค่าเข้าชมคนละ 50 ลีรา ค่าจอดเพิ่มคันละ 5 ลีรา
ก่อนเดินเข้าไปตรงจุดนี้ จะต้องถอดรองเท้าก่อนเพื่อคงความเป็นธรรมชาติไว้ พื้นค่อนข้างลื่นควรเดินอย่างระมัดระวังนะคะ น้ำที่นี่จะไหลตลอดปี จะมีช่วงฤดูร้อนที่น้ำอาจจะแห้งๆ หน่อย อาจจะเจอน้ำน้อย แต่แอ่งหินปูนสีขาวก็ยังคงอยู่เช่นเดิมจ้า
พิกัด : https://goo.gl/maps/M6Mu9ZamZjGdDV647
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
April – October 06:30 AM to 9:00 PM
Novermber – March 06:30 AM to 7:00 PM
ค่าเข้าชม : 60 Turkish Lira (รวมไปถึงการเข้าชม Hierapolis ด้วย)
\
Hierapolis
เมืองโบราณที่เคยเป็นสถานบำบัดผู้ป่วย มีอายุเก่าแก่ถึง 2,200 ปี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ในปี 1970 สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในหุบเขา Büyük Menderes ติดกับเมือง Pamukkale และ Denizli มีสภาพอากาศที่เย็นเกือบตลอดทั้งปี ศูนย์กลางของ Hierapolis คือ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์, Roman Theatre, Pamukkale Museum, โรงอาบน้ำโรมัน, โบสถ์ในยุค Byzantine
พิกัด : https://goo.gl/maps/piWM5bYezzoJiBwG7
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
April – October 06:30 AM to 9:00 PM
Novermber – March 06:30 AM to 7:00 PM
ค่าเข้าชม : 60 Turkish Lira (รวมไปถึงการเข้าชม Pamukkale ด้วย)
Mevlana Museum
เป็นสุสานฝังร่างของท่านเมฟลานา เจลาเลคดิน รูมี (Mevlana Jalal ad-Din Rumi) และบิดา เชื่อกันว่าเมฟลานาเป็นผู้วิเศษของศาสนาอิสลาม ผู้ชักชวนคนที่นับถือศาสนาคริสต์ให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม เดิมสถานที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมที่เรียกว่า “Whirling Dervishes” คือ การทำสมาธิยกระดับจิตวิญญานให้เข้าถึงพระผู้เป็นเจ้า ด้วยการเดินหมุนเป็นวงกลมตามเสียงขลุ่ยที่ทำจากต้นอ้อ (Reed Flute) เป็นพิธีที่สืบทอดมายาวนานกว่า 800 ปี นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่เก็บรักษาคัมภีร์โบราณที่เล็กที่สุดในโลกไว้อีกด้วย
พิกัด : https://goo.gl/maps/sy5WCJgKzx5u4A3JA
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09:00 AM – 4:30 PM
ค่าเข้าชม : ฟรี (กฎก่อนเข้าชมต้องใส่ถุงห้อมรองเท้า ซึ่งมีบริการไว้ด้านหน้าทางเข้า)
Sultan Han (Sultan Caravanserai)
ที่พักตั้งแคมป์สำหรับกองคาราวานพ่อค้า ใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้า บนเส้นทางสายไหม (silk road) ในสมัยก่อน Caravansarai แห่งนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาที่พักทั้งหมด รายล้อมไปด้วยกำแพงสูงใหญ่ ด้านในมีที่จอดรถม้า ห้องสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ลานกว้างตรงกลางมีหอคอยรักษาความปลอดภัยไว้สังเกตุการณ์บริเวณรอบๆ ที่พัก
พิกัด : https://goo.gl/maps/roy28UcCtG5s6yRh6
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09:00 AM – 6:30 PM
ค่าเข้าชม : ฟรี
Kaymakli Underground City
นครใต้ดินไคมัคลี สถานที่สำหรับหลบภัยในภาวะสงครามของชาวคัปปาโดเกีย เมืองใต้ดินที่แห่งนี้ประกอบไปด้วยห้องจำนวนมาก มีห้องหลากหลายห้อง ไว้ทำกิจกรรมต่างๆ แต่ละห้องสามารถเชื่อมถึงกันหมด มีห้องเสบียงไว้เก็บอาหาร ไวน์ ห้องสำหรับเลี้ยงสัตว์ ที่สำคัญมีบ่อน้ำถึง 200 บ่อ จำนวนคนที่คาดว่าจะอยู่ในเมืองใต้ดินมีราวๆ 10,000 คนเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองที่อยู่ใต้ดิน แต่ด้านในก็มีลมพัดผ่าน มีอากาศเพียงพอและถ่ายเทเป็นอย่างดีค่ะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/TvTdePWkituftZxV6
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 8.00 AM – 4.15 PM
ค่าเข้าชม : 42 Turkish Lira
Dolmabahce Palace
พระราชวังที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศตุรกี ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 เป็นพระราชวังใหม่ที่สร้างขึ้นมาบนพื้นที่พระราชวังเก่าที่เดิมชื่อว่า “Besiktas Shore Palace” มีสุลต่านประทับถึง 6 พระองค์ จำนวนห้องในพระราชวังมีทั้งหมด 285 ห้อง สไตล์การออกแบบเป็นการผสมผสานระหว่างสไตล์บาร็อค (Baroque), โรโกโก (Rococo), นีโอคลาสสิก (Neoclassical) และออตโตมันแบบดั้งเดิม สะท้อนถึงอิทธิพลของวัฒนธรรมและศิลปะจากทางยุโรป ที่มีส่งผลต่ออาณาจักรออตโตมันในขณะนั้น ภายในพระราชวังห้ามถ่ายภาพนะคะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/1V5tQAhLv45k91Sx8
เวลาเปิด – ปิด :
TUE – SUN 09.00 AM – 4.00 PM
MON closed
ค่าเข้าชม : 60 Turkish Liras
Hagia Sophia
1 สถานที่ Wish List ที่เมื่อใครที่ได้เดินทางไปตุรกีแล้วต้องห้ามพลาดคือ สุเหร่าโซเฟีย (Hagia Sophia) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง ที่มีความสวยงามทางด้านสถาปัตยกรรมทั้งภายในและภายนอกแต่เดิมที่แห่งนี้เป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์นิกาย Eastern Orthodox มีจุดเด่นคือ ยอดโดมที่สูงใหญ่อายุกว่า 1,500 ปี หลังจากถูกยึดครองโดยจักรวรรดิออตโตมัน โบสถ์แห่งนี้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นมัสยิดของศาสนาอิสลาม ด้วยการนำปูนขาวมาโบกทับภาพโมเสคของคริสต์ศาสนา แต่หลังจากนั้นก็มีการเปลี่ยนการปกครองให้เป็น Republic of Turkey โบสถ์แห่งนี้ก็ได้รับบูรณะใหม่ ด้วยการนำปูนขาวที่โบกทับไว้ออก จนกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ อะยาโซเฟีย (Ayasofya Museum) ในปัจจุบัน
พิกัด : https://g.page/hagiasophiamuseum?share
เวลาเปิด – ปิด : TUE-SUN 9.00 AM–5.00 PM
ค่าเข้าชม : 72 Turkish Liras เด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี เข้าฟรี
เป็นยังไงกันบ้างคะ จัดเต็มแบบจุใจกันหลายที่เลย ถ้าหากใครที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวตุรกี อย่าลืมถ่ายภาพสวยๆ กับเช็คอินสถานที่มาอวดกันด้วยน้าาาาาา